Sustainability Pavilion เบื้องหลังพาวิลเลียน Chiang Mai Design Week 2024
เผยแพร่เมื่อ 19 วันที่แล้ว
งานเทศกาลออกแบบเชียงใหม่ 2567 หรือ Chiang Mai Design Week 2024 ครั้งนี้ นำเสนอผลงานที่เน้นการออกแบบเพื่อความยั่งยืนเป็นหลัก โดยพาวิลเลียนของเทศกาลในปีนี้ได้รับการออกแบบโดยสองนักออกแบบชื่อดัง คือ รัฐธีร์ ไพศาลโชติสิริ หรือ “อบ” และ ระพีพัฒน์ แก้วทิพย์ หรือ “ปูน” สองนักออกแบบที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่เพียงสวยงาม แต่ยังคำนึงถึงการใช้งานและความคุ้มค่าของทรัพยากรในระยะยาว พาวิลเลียนในครั้งนี้สะท้อนถึงแนวคิดที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การใช้วัสดุธรรมชาติหรือรีไซเคิล แต่ยังเน้นการออกแบบที่ง่ายต่อการประกอบ การจัดเก็บ และการนำกลับมาใช้ซ้ำในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหัวใจของการออกแบบอย่างยั่งยืน
อบ-รัฐธีร์ ไพศาลโชติสิริ มีพื้นฐานมาจากการเป็นนักออกแบบนิทรรศการและที่ปรึกษาด้านการออกแบบในกรุงเทพฯ แต่ได้ย้ายมาทำงานที่เชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2019 โดยมีผลงานที่ได้รับความสนใจในระดับประเทศ เขามีความเชี่ยวชาญในการออกแบบนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ที่มุ่งเน้นความคิดสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้วัสดุใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนปูน-ระพีพัฒน์ แก้วทิพย์ ซึ่งเป็นคนเชียงใหม่โดยกำเนิด เป็นสถาปนิกที่จบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปูนได้ก่อตั้งสตูดิโอของตัวเองในชื่อ “มือจา” ที่ออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมุ่งเน้นการใช้งานที่คุ้มค่าและการผลิตที่สอดคล้องกับหลักการออกแบบเพื่อความยั่งยืน
ด้วยความร่วมมือและความเข้าใจในแนวคิดที่สอดคล้องกัน การออกแบบพาวิลเลียนสำหรับเทศกาลในปีนี้เป็นความท้าทายใหม่สำหรับทั้งอบและปูน ทั้งสองได้ร่วมกันพัฒนาแนวคิดที่ไม่เพียงคำนึงถึงความสวยงามหรือความเป็นศิลปะ แต่ยังเน้นไปที่การใช้งานจริงของโครงสร้างที่สามารถประกอบและจัดเก็บได้ง่าย เหมือนกับการตั้งแผงขายของในตลาด พาวิลเลียนถูกออกแบบให้สามารถขนย้ายและประกอบได้โดยใช้แรงงานท้องถิ่นทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งนี่ถือเป็นความพยายามในการลดต้นทุนการประกอบและการบำรุงรักษาในระยะยาว
ในด้านวัสดุที่ใช้ อบและปูนได้คำนึงถึงการนำวัสดุที่เหลือจากงานเทศกาลปีก่อนๆ มาใช้ใหม่ เช่น แผ่นโพลีคาร์บอเนต และแผ่นไม้อัดที่ยังคงอยู่ในสภาพที่ดี นอกจากนี้ ยังมีการนำโครงสร้างเก่าจากเทศกาลที่ผ่านมามาปรับใช้ในรูปแบบของ info board เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากวัสดุที่มีอยู่ แนวคิดในการเลือกใช้วัสดุเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการจัดการขยะในระยะยาว โดยทั้งอบและปูนมีเป้าหมายให้พาวิลเลียนในปีนี้เป็นต้นแบบของการออกแบบที่สามารถนำไปใช้ต่อในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ ไม่จำกัดเพียงแค่ในเชียงใหม่เท่านั้น
แม้ว่าพาวิลเลียนในปีนี้จะเน้นไปที่ความยั่งยืนในด้านการใช้งานและการจัดการวัสดุ แต่งานนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การใช้วัสดุธรรมชาติในการตกแต่ง พวกเขาเลือกที่จะไม่ใช้วัสดุธรรมชาติที่มีอายุการใช้งานสั้นและไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ง่าย แต่กลับเน้นไปที่ระบบการจัดเก็บและขนย้ายที่มีประสิทธิภาพ แทนที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่แสดงถึง “ความเขียว” อย่างผิวเผิน พาวิลเลียนถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้จริงและง่ายต่อการดูแลรักษา ซึ่งเป็นการตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืนในระยะยาวอย่างแท้จริง
อีกหนึ่งความโดดเด่นของพาวิลเลียนในปีนี้ คือการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเข้ามาตกแต่งหรือปรับเปลี่ยนพาวิลเลียนได้เองตามความต้องการ โดยโครงสร้างพื้นฐานของพาวิลเลียนที่อบและปูนออกแบบไว้นั้นมีความเรียบง่ายและยืดหยุ่นพอที่จะรองรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงนิทรรศการ การแสดงสด หรือแม้กระทั่งงานเปิดตัวต่าง ๆ การออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานหลากหลายนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มคุณค่าให้กับพาวิลเลียน แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของนักออกแบบที่ต้องการให้โครงสร้างนี้เป็นมากกว่าเพียงสถานที่จัดแสดง แต่เป็นพื้นที่ที่สามารถสร้างสรรค์และเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน
แนวคิดเรื่องความยั่งยืนที่อบและปูนนำมาใช้ในการออกแบบพาวิลเลียนครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดในการออกแบบที่มุ่งเน้นการใช้งานระยะยาวและการจัดการวัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพียงเพื่อให้สอดคล้องกับกระแสของโลกในปัจจุบัน แต่เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการออกแบบที่คิดถึงอนาคตในทุกมิติ